ด้วยความระลึกถึง..ครับ…

แม่

 จำได้ว่าวันที่เพื่อนแต่งงาน เราได้สวมกอดแสดงความยินดีกับแม่เพื่อน จำได้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็ได้ทราบข่าวร้ายจากเพื่อน ว่าแม่ได้จากเพื่อน และพวกเราไปแล้ว และจำได้ว่าในพิธีศพของแม่เพื่อน เพื่อนเศร้าใจและทุกข์ใจมากมายขนาดไหน..

ท่านไปดีแล้ว..เราและเพื่อนของเพื่อนทุกๆ คน รู้ดีว่า ท่านภูมิใจในตัวเพื่อน..อย่างที่สุด…

ผมได้เขียนข้อความด้านบนนี้ไว้ในส่วนของคอมเม้นท์ในหัวข้อกระทู้เรื่อง “คำแม่สอน” ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของของกระทู้ และเจ้าของ Blog ก็คือ รศ.ดร. อุดมศิลป์ ปิ่นสุข หรือ อาจารย์เม..เพื่อนรักของผม นั่นเอง

อาจารย์เม..ได้บันทึกบทความดีๆ เพื่อเป็นการอุทิศให้แด่แม่ผู้จากไปไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ครับ

แม่ผมจากไปด้วยวัย 50 ต้นๆ เท่านั้นเอง ตอนนี้ผ่านมา 4 ปีแล้ว ผมอยากเขียนอะไรดีๆ ถึงแม่สักครั้ง แต่ทุกครั้งที่เริ่มเขียนก็มักจะลบทิ้งในที่สุดด้วยเหตุผลที่ว่ามันอาจดีไม่พอ…

เดือนนี้เป็นเดือนแห่งวันแม่ ทุกท่านยกย่องเทิดทูนแม่กันหมด ผมจึงใช้โอกาสนี้ประกาศเกียรติคุณของแม่ของผมครับ

ในสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก เราเป็นครอบครัวชาวบ้านเรียกว่าหาเช้ากินค่ำ หรือหาหลายๆ เช้าเพื่อกินค่ำเดียว ชีวิตส่วนใหญ่จะใกล้ชิดแม่เป็นหลัก แม่จะทำงานเย็บเสื้อผ้าเป็นอาชีพโดยมีคุณครูที่โรงเรียนและเพื่อนบ้านเป็นลูกค้า และผมทำหน้าที่เป็นม้าเร็วส่งชุดเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้ว แม่มีชื่อเสียงเรื่องการตัดเย็บที่ปราณีตและคิดราคาเป็นกันเองสุดๆ ผมไม่แน่ใจว่ารายได้เราเป็นอย่างไร แม่ไม่เคยบอกปัญหาเรื่องการเงินในบ้านให้รู้แม้แต่น้อย ผมมีชีวิตในวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความฝันของตัวเองโดยที่แม่ไม่เคยมาบีบคั้นหรือเอาปัญหาเครียดๆ มาใส่หัวแม้แต่น้อย มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมอยากได้ของเล่นเหมือนเพื่อนๆ แม่จะซื้อให้บ้าง ไม่ซื้อให้บ้าง เมื่อโตขึ้นหน่อยจึงรู้ว่า วันที่ได้ของเล่น คือวันที่ทำให้แม่ต้องทำงานหนักขึ้น…

อ่านบทความนี้ต่อได้ใน Blog ของอาจารย์เม.. ตาม Link นี้ ครับ : “คำแม่สอน”

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม..??..อาจารย์เม.. ถึงได้ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมากมายในระยะเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้…

ใส่ความเห็น